ความแตกต่างระหว่างการ “ใส่เลนส์เสริม และ การผ่าตัดเลสิค”

ใส่เลนส์เสริม

ปัจจุบันนั้นในรการรักษาดวงตาของเรานั้นให้มองเห็นแบบปกตินั้นมี 2 วิธีที่จะช่วยให้เรานั้นสามารถกลับมามองเห็นได้อย่างปกติไม่ว่าจะเป็น สายตาสั้น และ สายตาเอียง หรือ สายตายาว นั้นสามารถรักษาได้จากการผ่าตัดเลสิค หรือ การใส่เลนส์เสริมเองก็สามารถรรักษาได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งสองรูปแบบนั้นจะมีความแตกต่างกันอย่างมากด้วยเช่นกัน  ดังนั้นเราจะมาดูความแตกต่างระหว่างการผ่าตัดเลสิค และ การใส่เลนส์เสริมกันว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร  

ไม่ทิ้งแผลผ่าตัด  

อย่างแรกเลยนั้นคือในเรื่องของ “แผลผ่าตัด” นั้นจะเกิดขึ้นได้หากว่าเรานั้นผ่าตัดด้วยเลสิคนั้นเองซึ่งจะมีการทิ้งแผลเป็นไว้เพียงเล็กน้อย แต่กลับกันนั้นหากว่าเรานั้นเลือกใส่เลนส์เสริมนั้นจะไม่มีการทิ้งแผลเป็นไว้อย่างการผ่าตัดเลสิคซึ่งจะเป็นผลดีอย่างมากสำหรับที่ไม่ทิ้งแผลเป็น ดังนั้นการใส่เลนส์เสริมจะไม่มีการทิ้งแผลผ่าตัดเอาไว้  

การใช้การรักษาที่แตกต่างกัน  

การรักษาดวงตาของเรานั้นให้กลับมามองเห็นแบบปกตินั้นไม่ว่าจะเป็นการรักษาด้วยเลสิค และ   การใส่เลนส์เสริมนั้นจะมีความแตกต่างกันอย่างมากในการรักษา โดยการใส่เลนส์เสริมนั้นจะเป็นการรักษาตามชื่อเลยนั้นคือ การใส่เลนส์เสริมเข้าไปเพื่อให้ปรับการมองเห็นของเราให้มีความปกติในการมองเห็นเหมือนเดิม  ซึ่งในการผ่าตัดเลสิคนั้นจะเป็นการรักษการมองเห็นของเราด้วยเลเซอร์เพื่อปรับค่าสายตาแทนดังนั้นจะเห็นว่าการรักษาดวงตาของเรานั้นทั้ง 2 วิธีในการรักษาจะมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง  

สามารถกลับมามองเห็นได้ตลอดหรือไม่  

อีกเรื่องนั้นคือในเรื่องของ “การกลับมามองเห็น” ซึ่งการมองเห็นนั้น นั้นจะสามารถรักษาให้กลับมาเป็นอย่างปกติ ได้ทั้ง 2 วิธี และ แน่นอนว่าในการมองเห็นนั้นถ้าหากว่าเรานั้นดูแลรักษาไม่ดีพอ หรือ ปล่อยปะละเลยนั้นก็จะทำให้การมองเห็นของเรานั้นกลับมาแย่ลงได้อีกเช่นกัน ซึ่งนี้เป็นเพียงเรื่องเดียวทั้งวิธีการรักษาทั้ง 2 รูปแบบไม่ว่าจะเป็น การรักษาด้วยการเลสิค และ การรักษาด้วยการใส่เลนส์เสริมนั้นหากว่าปล่อยปะละเลยไว้ก็จะทำให้การมองเห็นกลับมาแย่เหมือนเดิมด้วยเช่นกัน  

ข้อจำกัดที้แตกต่างกัน  

ในการรักษดวงตาของเราให้กลับมามองเห็นอย่างปกตินั้นจะมีข้อจำกัดที่แตกต่างกันทั้งการรักษาด้วยเลสิคจะมีข้อจำกัดในเรื่องของกระจกตาว่ามีความหนา หรือ ความบางที่มากเพียงพอหรือไม่ และ การรักษาด้วยการใส่เลนส์เสริมเองก็มีความแตกต่างกันด้วย เพราะว่าจะมีข้อจำกัดในระดับสายตาที่แตกต่างกันด้วยเช่นกัน ซึ่งถ้าหากว่าสายตาเกินค่ากำหนดนั้นก็ไม่สามารถรักษาได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นการรักษาทั้ง 2 รูปแบบนั้นจึงมีข้อจำกัดที่แตกต่างกันด้วยเช่นกัน 

ดังนั้นจะเห็นว่าในการรักษาดวงตาของเรานั้นทั้งสองรูปแบบนั้นถึงแม้จะมีจุดประสงค์เดียวกันนั้นคือในการรักษาดวงตาของเราให้กลับมามองเห็นเหมือนปกติ แต่ว่าก็จะใช้วิธีในการรักษาที่แตกต่างกันด้วยเช่นกัน ซึ่งหากว่าเรานั้นต้องการรักษาดวงตาของเราให้กลับมามองเห็นอย่างปกตินั้นเราสามารถเลือกได้ด้วยเช่นกันว่าเราจะใช้วิธีไหนในการรักษาดวงตาของเรา